Author: bluishpenta

  • MBTI ของเราเปลี่ยนอีกละ…

    MBTI ของเราเปลี่ยนอีกละ…

    เปลี่ยนอีกละ MBTI ของเรา เปลี่ยนจาก ENFJ-T (ตัวเอก) เป็น ENFP-T (นักรณรงค์) ตามสภาพสถานการณ์จังหวะชีวิต

    ถามจริงไหม?

    ตั้งแต่เริ่มทำ Business Developer Manager ที่คิวบิกครีเอทีฟ แล้วมาทำ Financial Advisor ที่ AIA เจอลูกค้า+เด็กเยอะมาก ทำให้เรารับรู้ปัญหาทางสังคมที่เชื่อมโยงกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ทำให้ช่วงหลังมา เราขุดลึกเข้าไปอีก ด้วยการทำงานเกี่ยวกับที่ปรึกษาธุรกิจด้วย เข้าไป empathy ตัวธุรกิจ แล้วด้วยความเป็นตัวเอก ทำให้เราซึมซับอารมณ์ขุดลึกลง ด้วยการที่เราต้องการให้ “โอกาส” เขากลับมายืนได้อีกครั้งนึง แต่ก็อย่างว่าครับ ผมขาดทุนทรัพย์ที่จะสนับสนุนความคิดของผมให้ผมไปต่อ

    ทุกวันนี้ ทำ Piniya พินิยา ถึงแม้ยอดขายจะเล็กน้อยมาก ๆ แต่ก็ช่วยให้ธุรกิจที่เราสนับสนุนพอไปต่อได้ ดังนั้น #พินิยา ไม่ได้ทำเพื่อความร่ำรวย แต่ทำเพื่อเป็นช่องทางที่ทำให้ #วิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม มี “โอกาส” ที่จะไปต่อเมื่อเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัปช่องทางทางธุรกิจ เพราะอะไร? เพราะ ผมมองว่า เมื่อมีใครสักคนซื้อสินค้าของเรา เงินสามารถกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจต่างจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ระบบเศรษฐกิจในต่างจังหวัดดีขึ้น และเมื่อระบบเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนกินอิ่ม นอนหลับ มีเงินเก็บ เขาก็สามารถที่จะซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และวางแผนเพื่อการเกษียณได้ต่อไป บางที่ผมอาจจะคิดใหญ่ไป คิดเยอะไป แต่ผมก็กำลังทำอยู่ และทำต่อไป มีทุนน้อย ก็ไปช้าหน่อย มีทุนมากก็ไปเร็วหน่อย ตามมีตามเกิดครับ

    จึงเขียนไว้เป็นอนุสรณ์

  • วิกฤตชามตราไก่ จากมุมมองผู้บริหาร

    วิกฤตชามตราไก่ จากมุมมองผู้บริหาร

    จากที่ได้เป็นข่าวใหญ่กันตามน่าสื่อดังของประเทศไทยไป เรื่อง วิกฤตชามตราไก่ ของอุตสาหกรรมเซรามิกจังหวัดลำปาง อ้างอิง

    ซึ่งวันนี้แดนจะขอนำเสนอที่มาที่ไป ข้อมูล และปัญหา จากมุมมองของผู้บริหารบริษัทเซรามิกของลำปาง ถ้างั้นเรามาเริ่มกันเลยครับ

    ถ้าหากใครสงสัยว่า แดนเป็นใครมาจากไหน? รบกวนอ่านต่อในบทความ แดน กับโรงงานเซรามิกของครอบครัว

    รากของปัญหา

    การต้นทุนของการเข้าตลาดต่ำสู่วงจรอุบาทว์

    อุตสาหกรรมเซรามิกของจังหวัดลำปางมีต้นทุนของการเข้าตลาดต่ำ ทำให้ชาวบ้านที่เคยเป็นพนักงานในโรงงานเซรามิก เรียนรู้วิธีการผลิตแล้ว ก็นำวิทยาการแบบครูพักลักจำ ไปสร้างโรงงานขึ้นมา ในยุคนึงเราจึงเห็นโรงงานเซรามิกผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด มีโรงงานเซรามิกมากถึง 300-400 โรงงานทั่วจังหวัดลำปาง ซึ่งแน่นอนว่า มันจึงเกิดปัญหาตามมาดังนี้

    การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

    ชาวบ้านที่ออกมาเปิดโรงงานใหม่ก็จะนำเอาแบบสินค้าที่ตนเองเห็นแล้วออกมาผลิตเอง ทั้งแบบสินค้า และลวดลายบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบบผลิตภัณฑ์ และลวดลายต่าง ๆ ที่โรงงานใหญ่ ๆ คิดค้นมานั้นต่างมีต้นทุนที่สูง เนื่องจากมีค่าแรงงานของนักออกแบบ นักการตลาดที่ต้องออกไปวิจัยตลาด และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ไหนจะต้องเสียเวลาช่วงออกแบบ และการผลิตอีก ซึ่งมาถึงจุด ๆ นี้ ทุกคนอาจจะบอกว่า เรามีกฎหมายลิขสิทธิ์ ใช่ครับ! ประเทศไทยเรามีกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่กฎหมายลิขสิทธิ์ที่ว่าด้วยเกี่ยวกับรูปปั้น แค่โรงงานเล็ก ๆ เอาไปทำซ้ำด้วยการเอียงคอเพียงเล็กน้อย กฎหมายลิขสิทธิ์ก็พร้อมที่จะไม่คุ้มครอง เรื่องนี้ผมเคยปรึกษากับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว กรมฯ ช่วยอะไรไม่ได้เลย ธุรกิจครอบครัวของแดนโดนละเมิดหนัก หนักมาก ๆ จนคุณพ่อท้อถอดใจไม่อยากออกแบบแล้ว เพราะออกแบบออกมาขายดี ก็โดนละเมิดทรัพย์ทางปัญญาหมด คนคิดมันเหนื่อยครับ

    การทุ่มราคา

    ชาวบ้านที่ออกมาเปิดโรงงานเองแต่ ไม่เคยเรียนรู้เรื่องการตลาดเลย แต่เมื่อผลิตสินค้าสู่ตลาดแต่ไม่มีคนซื้อเพราะ มีผู้เล่นหลักอยู่แล้วผู้เล่นรายใหม่ต้องการเข้าสู่ตลาดจะทำอย่างไร? แน่นอนว่า ก็ต้องลดราคาถูกไหม? แล้วยิ่งถ้าไปละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์มาด้วยต้นทุนยิ่งต่ำ ก็จะมีความสามารถลดราคาลงจนต่ำมาก พอลดราคาลงผู้เล่นเดิมในตลาดก็ลดราคาตาม มันเลยทุกให้ราคาตลาดของเซรามิกโดยรวมมันยุบตัวลง เพราะตอนนี้ผู้บริโภครู้แล้วว่า ต้นทุนมันถูก โดยธรรมชาติของคนไทยก็จะเกิดการต่อราคา ซึ่งการต่อราคา = การกดราคา พอโดนกดราคามาก ๆ เข้ามันก็ทำให้กิจการต่าง ๆ ไม่มีเงินทุนมาพัฒนาสินค้า พัฒนาธุรกิจต่อ ทำให้ตลาดเซรามิกในประเทศไทยไม่ค่อยมีสินค้าใหม่ ๆ ไม่มีนวัตกรรมออกมาวางขาย

    มันเป็นไปได้อย่างไร? เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทุกปี 1-3% แต่ราคาสินค้าไม่เคยขึ้นตามเลย

    นวัตกรรม

    แน่นอนครับ เงินทุนคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนา ถ้าขาดเงินทุนก็ไม่สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ ทำให้เซรามิกเบา และมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงได้

    หรือแม้แต่การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการขยายตลาดก็มีเพียงบางกิจการที่ทำกันเท่านั่น

    โอกาส

    เมื่อมีใครให้โอกาสแดนคว้าหมด คว้าอันที่แดนไปไหว แต่โครงการปั้นแบรนด์ใหญ่ ๆ ของกรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ แดนเคยสมัครเข้าไป ได้แต่ไปนั่งฟังรอบแรก รอบ 2 ไม่เคยได้ เหมือนเอาเราไปถ่ายรูปสร้างภาพ แล้วกรรมการ และที่ปรึกษาโครงการ ก็จะอ้างว่า แบรนด์น้องยังไม่แข็งบ้างล่ะ ก็แบรนด์เราไม่แข็งไง เลยพยายามเข้าหาท่านเพื่อหาโอกาสขอโอกาส แต่ท่านก็ปฏิเสธเรามาโดยตลอด

    วัฒนธรรมราชการไทย

    เดี๋ยวคอยดูนะ กรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ต้องออกมาตามสคริปนี้แน่นอน “ตลอดมา กรมไม่ได้นิ่งนอนใจ กรมมีมาตรการเยียวยาทางการค้าหลายมาตรการ ได้นำมาใช้ดำเนินการกับสินค้านำเข้าแล้ว เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่ม (เอดี) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน หรือมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด)” มาแนวนี้ค่อยดู แล้วด้วยความเคารพนะครับท่าน 10 ปีที่แล้ว ตอบยังไง? ผ่านมา 10 ปีก็ตอบอย่างงั้น? ตอบแบบปัด ๆ ไป แต่ทำไมของยังเกลื่อนล่ะครับ? ถ้าทำจริง ส่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็จะออกมาแนว ๆ ใครมีหลักฐานว่า “บริษัทนี้เป็นบริษัทต่างด้าว ส่งหลักฐานมาเดี๋ยวไปตรวจสอบ” สุดท้ายแล้วก็บอกว่า บริษัทที่ไปตรวจสอบไม่เป็นบริษัทต่างด้าว เพราะคนไทยถือหุ้นหมด

    แรงงาน

    หลังจากโดนกดราคาแล้ว กิจการไม่มีเงินทุนมาพัฒนาธุรกิจ พอไม่มีเงินทุนมาพัฒนาธุรกิจ ค่าจ้างแรงงานก็ไม่ค่อยขึ้น พอค่าแรงไม่เติบโต แรงงานรุ่นใหม่ก็หนีไปทำงานในอุตสาหกรรมอื่นหมด แล้วยิ่งซ้ำร้าย อุตสาหกรรมเซรามิกถูกจัดอยู่ในอุตสาหกรรมประเภท

    3D คือ Dirty, Difficult, Dangerous

    อยู่กับดินสกปรกเลอะเทอะ ทำไปกว่าจะฝึกฝนให้ชำนาญค่าแรงก็น้อย แถมเครื่องมือบางอย่างก็อันตราย มันไม่มีแรงงานรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน

    เอาตรง ๆ ทุกวันนี้จ้างถึงอัตราค่าแรงขั้นต่ำกันไหม?

    ทุกวันนี้ ผมเดินตลาดนัดจตุจักรเห็นเซรามิกวางขายตามร้านต่าง ๆ เดินเข้าไปถามราคาขายก็รู้แล้ว จ้างไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำ แต่ที่โรงงานเงียบ ๆ ก็เพื่อโรงงานอยู่ได้ และพนักงานก็ยังมีงานทำอยู่ ก็อยู่ ๆ กันไป

    การเงิน และการบัญชี

    หากเราเรียนบริหารธุรกิจ มักจะถูกสอนอยู่เสมอว่า การเงินที่มีสภาพคล่องสูง และการบัญชีที่แม่นยำ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอด ซึ่งแน่นอนว่า โรงงานเล็กที่เกิดขึ้นนั้นมาจากชาวบ้าน ทำให้ไม่มีรู้เรื่องเกี่ยวกับการเงินและการบัญชี พอไม่รู้เรื่องนี้แล้ว บวกการทุ่มตลาดเรื่อย ๆ ทำให้เป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้การเงินติดลบ

    พอการเงินติดลบโดยไม่รู้ตัวก็เริ่มมีความรู้สึกชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือที่เราเรียกกันในเชิงธุรกิจคือ “ขาดสภาพคล่องทางการเงิน” พอขาดสภาพคล่องทางการเงินก็จะพยายามหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ และแน่นอนว่า เมื่อเราจะกู้ธนาคาร จนธนาคารไม่ให้กู้แล้ว โรงงานต่าง ๆ ก็จะใช้เครื่องมือทางการเงินนอกระบบ คือ “หนี้นอกระบบ”

    การเมือง

    การเมืองในระดับประเทศ

    ตั้งแต่ผมเกิดมา ประเทศไทยเรามีปฏิวัติทางการเมืองเฉลี่ยทุก ๆ 10 ปี แล้วครั้งที่เจ็บที่สุดคือ ปี 2558 ตอนนั้นประเทศไทยกำลังเจรจาเขตการค้าเสรี Thai-EU ซึ่งเป็นความหวัง ลูกค้ายุโรปหลาย ๆ คนที่เราค้าขายกันอยู่รอคอย พอเกิดปฏิวัติเท่านั้นแหละ ลูกค้าหนีกระเจิง จนตอนนี้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว มีข่าวว่า การเจรจาเดินหน้าต่อแล้ว เราก็หวังว่า มันจะเจรจาเสร็จเร็ว ๆ นี้

    การเมืองในระดับกิจการ

    การรวมกลุ่มสมาคม คลัสเตอร์ ชมรม หรือกิจการร่วมค้าต่าง ๆ ของเซรามิคลำปางก็เกิดอย่างหลวม ๆ เพื่อมีพลังอำนาจในการต่อรองเรื่องต่าง ๆ ซึ่งพอท้ายที่สุดแล้วเมื่อเสร็จเป้าหมายตามที่จุดประสงค์ที่กลุ่มตั้งขึ้นแล้ว กลุ่มนั้นก็จะสลายไป ซึ่งมีน้อยมาก ๆ ที่จะยังรวมกันอยู่อย่างแน่นแฟ้น ทำให้เรายากที่จะเห็นกิจการโรงงานหลาย ๆ กิจการมารวมกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการค้า

    จากปัญหาสู่การแก้ปัญหา

    ถ้าพูดกันอย่างตรง ๆ และอาจจะฟังดูเลวร้ายก็คือ ให้ธรรมชาติคัดสรร เพราะผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่ปรับตัว แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ เลย

    ผู้ประกอบการ

    ผู้ประกอบการต้องหยุด หยุดลดราคาทุ่มตลาด หยุดละเมิดลิขสิทธิ์สินค้าของผู้ประกอบการอื่น พัฒนาทักษะด้านวิชาการ และการค้า และพัฒนานวัตกรรมด้านการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาด และหันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมกลุ่ม ร่วมกิจการ เพื่อสร้างกิจการที่แข็งแกร่งมากขึ้น สร้างอำนาจในการต่อรองพ่อค้าคนกลาง หรือโอกาสในการตลาดที่มากขึ้น เรื่องแรงงาน เมื่อมีการเงินที่ดีค่าแรงอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็จะเป็นแรงจูงใจให้กลับมาทำงานในอุตสาหกรรมนี้ต่อไป หรือทางออกสุดท้ายก็อาจจะต้องเป็นแรงงานต่างชาติ ส่วนตัวแดน แดนพร้อมที่จะคว้าโอกาสเสมอ ผู้ใหญ่ท่านหยิบยื่นมาให้รับหมดครับ เพราะแดนมี passion ตรงนี้เสมอ

    รัฐบาล และกฎหมาย

    รัฐบาลปรับปรุงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาให้ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้เมื่อมีผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายสามารถลงโทษผู้ละเมิดได้ ทำให้ไม่เกิดการละเมิดอีก

    เร่งรัดการเจรจาเขตการค้าเสรีกับนานาประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการเจรจาการค้าของประเทศไทยที่มากขึ้น

    คนไทย

    1. หยุดต่อราคา เพราะการต่อราคา คือการกดราคา มันคือการตัดโอกาสการพัฒนาธุรกิจ
    2. ชาตินิยม คือ ส่งเสริม และใช้สินค้าไทย

  • แดน กับโรงงานเซรามิกของครอบครัว

    แดน กับโรงงานเซรามิกของครอบครัว

    โรงงาน เอส พี เซรามิค

    ก่อร่างสร้างตัว

    แดนเกิดเป็นลูกคนโตของคุณพ่อชื่อ พินิจ ศิริวัฒนกุล คุณพ่อหลังจากเรียนจบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ตามคุณปู่ นายเผชิญ ศิริวัฒนกุล ขึ้นมาซึ่งตอนนั้นคุณปู่ขึ้นมาทำเหมืองแร่ดินขาวในอำเภองาวในช่วงปี 2530 ด้วยความที่คุณพ่อสังเกตเห็นว่า ตลาดเซรามิกในตอนนั้น มีแต่โรงงานที่ทำจานเซรามิก Tableware, Dinnerware และเป็นแนว Blue and White ทั้งนั้น

    Blue and White Ceramic Coaster
    พิธีลงเสาเอกของโรงงาน
    โรงงานหลังแรกของโรงงาน เอส พี เซรามิค

    คุณพ่อจึงมีความคิดว่า แล้วทำไมเราไม่ทำอย่างอื่นที่มันแปลกต่าง ๆ จากที่มีในตลาดปัจจุบันละ? คุณพ่อจึงริเริ่มก่อสร้าง โรงงาน เอส พี เซรามิค ขึ้นมา

    วิกฤตต้มยำกุ้ง

    ในช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า วิกฤตต้มยำกุ้ง ประเทศไทยก็ได้มีการลอยตัวค่าเงินบาทขึ้น ทำให้เราได้มีโอกาสในการส่งออกที่มากขึ้น มีลูกค้าแบรนด์ใหญ่ ๆ ระดับโลกมากมายเข้ามาติดต่อเราเพื่อต้องการจ้างให้เราผลิตผลิตภัณฑ์ให้เขาส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป ฮ่องกง และออสเตรเลีย ซึ่งเราก็เพลิดเพลินกับการรับจ้างผลิตอย่างมาก กิจการขยายตัวเป็นอย่างมาก แปลงสภาพจากโรงงานเป็น บริษัท เอส พี เซรามิค ค็อลเลคชั่น จำกัด แต่แล้วงานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกลา…

    พลิกฟื้นและก้าวต่อไป…ด้วยกัน

    หลังจากที่เราเรียนรู้จากประสบการณ์ในเพื่อวางแผนเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตแล้ว เรายังไม่หยุดเรียนรู้ที่จะสร้างพันธมิตรทางการค้า และการผลิตที่มีอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตทางธุรกิจในท้องถิ่นของเราที่เราอยู่ต่อไป

  • รู้จักสามเหลี่ยมพีระมิดทางการเงิน

    รู้จักสามเหลี่ยมพีระมิดทางการเงิน

    ในโลกยุค VUCA (Volatility = ความผันผวน, Uncertainty = ความไม่แน่นอน, Complexity = ความซับซ้อน, Ambiguity = ความคลุมเครือ) ที่สถานการณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างในปัจจุบันนี้ ทำให้เราต้องวางแผนชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการวางแผนการเงินก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น เงินเฟ้อ ค่าแรงต่ำ ค่าครองชีพสูง สังคมผู้สูงอายุ วิกฤตการเงิน และเหตุการณ์ต่าง ๆ นั้น ทำให้เราเก็บเงินได้ยากขึ้นนั้นเอง

    ดังนั้นในโลกการเงิน เราจึงมีทฤษฎีที่ว่า พีระมิดการวางแผนการเงิน หรือ Financial Planning Pyramid ซึ่งเป็นหลักสากลในการวางแผนการเงินนั้นเอง

    พีระมิดทางการเงิน คืออะไร?

    พีระมิดการวางแผนการเงิน หรือ Financial Planning Pyramid หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า พีระมิดการเงินนั้น คือ แผนหรือโครงสร้างทางการเงินที่เรียงลำดับชั้นของความสำคัญก่อน-หลัง โดยจะค่อย ๆ วางรากฐานทางการเงินให้แข็งแกร่งดั่งพีระมิดอียิปต์ที่ตั้งตระหง่านกว่า 4,500 ปีมาแล้ว โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้

    ส่วนที่ 1 การจัดการวางแผนใช้จ่ายและวางแผนหนี้สิน (Cash Flow Management)

    การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อทำให้เรารู้ว่า 1 เดือน เรามีรายรับจากทางใดบ้าง? และมีรายจ่ายไปทางช่องทางใดบ้าง? เพื่อนำไปใช้วางแผนสภาพคล่องทางการเงินต่อไป ซึ่งเราจะมีการวางแผนสภาพคล่องการเงินด้วยกัน 2 แบบใหญ่ ๆ คือ

    1. Active Cash Flow Planning คือ เพื่อวิเคราะห์ถึงความสำคัญของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และรู้ถึงสภาพคล่องการเงินของเราว่า ในอนาคตเรามีความต้องการใช้เงินจำนวนเท่าไหร่? ก่อนแล้วหาช่องทางการสร้างรายได้เพื่อให้เพียงพอต่อรายจ่ายต่อไป
    2. Passive Cash Flow Planning คือ นำรายได้จากช่องทางต่าง ๆ มารวมกัน แล้วแบ่งเงินออกเป็น 3 กองด้วยกัน เพื่อวางแผนสภาพคล่องทางการเงินต่อไป โดยใช้ส่วนต่าง ๆ กันไป บางคนอาจใช้สัดส่วน 40/30/30 หรือ 50/30/20 โดยจุดประสงค์ของแต่ละสัดส่วนมีดังต่อไปนี้
      • NEEDs คือ ค่าใช้จ่ายจำเป็น หรือค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าประกัน เป็นต้น
      • WANTs คือ ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ ค่าสินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น
      • SAVINGs คือ เงินสำหรับการเก็บออมเพื่อนำไปลงทุน โดยเงินออมก้อนแรกควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน โดยเป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น เงินบัญชีออมทรัพย์, กองทุนรวมตลาดเงิน, พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น เพื่อให้แปรรูปเป็นเงินสดได้เร็วที่สุด เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดขึ้น

    ส่วนที่ 2 การป้องกันความเสี่ยง (Protection)

    คือการถ่ายโอนความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับแผนการเงินของเราไปไว้ที่อื่น ด้วยการใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีชื่อว่า “ประกัน” นั่นเอง

    โดยประกันจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

    • ประกันวินาศภัย (Non-Life Insurance) คือ การคุ้มครองสินทรัพย์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิต เช่น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันการโจรกรรม เป็นต้น
    • ประกันชีวิต (Life Insurance) คือ การคุ้มครองการเสียชีวิต ทุพพลภาพ ด้วยโรคหรืออุบัติเหตุ ซึ่งประกันชีวิตแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้
      1. แบบชั่วระยะเวลา (Term) คือ แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองระยะสั้น ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เบี้ยประกันถูก แต่เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง ต้องเสียชีวิตเท่านั้น คนข้างหลังถึงจะได้รับเงินทุนประกัน ซึ่งเหมาะกับคนที่ชีวิตมีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และต้องการเพิ่มความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลานั้น
      2. แบบตลอดชีพ (Whole Life) คือ แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองระยะยาว 90 หรือ 99 ปี แต่จ่ายเบี้ยสั้น อยู่ครบสัญญาหรือเสียชีวิตก็จะได้รับเงินทุนประกัน เหมาะกับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือคนที่ต้องการทำประกันสุขภาพก็สามารถซื้อประกันแบบนี้แล้ว เพิ่มค่ารักษาพยาบาล เข้าไปได้เลย
      3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) คือ แบบประกันที่เน้นการออมเงินที่ได้รับความนิยม จะได้รับเงินก้อนเมื่อครบสัญญาหรือเสียชีวิต ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการการคุ้มครองพร้อมออมเงินแต่รับความเสี่ยงได้น้อย
      4. แบบบำนาญ (Annuity) คือ คือ แบบประกันที่จ่ายเบี้ยจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี หลังเกษียณจะได้รับเงินบำนาญคล้าย ๆ สวัสดิการข้าราชการ ซึ่งเหมาะกับการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ

    จากแบบประกันประเภทต่าง ๆ ต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างไป และมีอนุสัญญาที่เพิ่มความคุ้มครองในเรื่องการประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันการขาดรายได้ ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น ดังนั้นเราจึงควรศึกษาและเลือกให้ตรงกับโจทย์ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งบางคนอาจมองว่า ไม่ค่อยสำคัญ เนื่องจากคิดว่าตนเองนั้นยังมีสุขภาพที่ดีอยู่ และมองว่าเป็นภาระค่าใช้จ่าย แต่อย่างน้อย ๆ ประกันคือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องความเสี่ยง และคุ้มครองเราจากหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของเราได้

    ส่วนที่ 3 การออมและการลงทุน (Saving & Investment)

    เมื่อส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 มั่นคงแล้ว เราก็นำเงินมาลงทุนต่อยอดโจทย์ และเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนกันต่อ โดยเราจะแบ่งเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัดได้ 3 ระยะเวลา ได้แก่

    • ระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) เช่น การเรียนต่อ ท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น เราก็ต้องลงทุนแบบระมัดระวัง เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง อย่างบัญชีเงินฝากประจำ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
    • ระยะกลาง (2-5 ปี) เช่น การแต่งงาน ซื้อบ้าน ซื้อรถ เริ่มธุรกิจส่วนตัวใหม่ เป็นต้น เราก็จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลาง อย่างกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมผสม
    • ระยะยาว (5 ปีขึ้นไป) เช่น การเกษียณอายุ การศึกษาบุตร เป็นต้น เราก็จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง ในรูปแบบของการสะสมทรัพย์ อย่างประกันบำนาญ, กองทุนรวม RMF, หุ้นพื้นฐานดีหรือหุ้นปันผล, กองทุนรวมหุ้น, อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ
    Blue Piggy Bank

    ส่วนที่ 4 การวางแผนการศึกษาของบุตร และการเกษียณ

    เมื่อเราดำเนินชีวิตมาระยะนึง เราสร้างครอบครัวมีบุตร ธิดา แล้ว การวางแผนการศึกษาของเขาเป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนเลย เพราะหากคุณเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาจะยังคงมีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อไปหรือไม่? หากไม่มี ชีวิตพวกเขาคงจะเดือดร้อนไม่น้อย ดังนั้นเราจึงมีเครื่องมือที่เรียกว่า “ประกันชีวิต” ที่จะใช้ประกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    การวางแผนเกษียณเพื่อเราจะยังคงมีสินทรัพย์เหลือใช้เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตในช่วงสุดท้าย และเพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล ดังนั้นการวางแผนประกันสุขภาพระยะยาว หรือ Long Term Health Care ก็มีความสำคัญที่จะทำให้คุณไม่มีภาระในช่วงเกษียณ เพราะเราจะวางแผนให้เงินทำงาน แล้วนำเงินที่ออกผลมาจ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้กับคุณ

    ส่วนที่ 5 การวางแผนมรดก (Deliver your legacy)

    เมื่อเราย่างเข้าสู่บั้นปลายชีวิต เราก็จะต้องมีการส่งมอบสินทรัพย์ที่เหลืออยู่ให้แก่ลูก หลาน หรือที่เราเรียกว่า การจัดดการมรดก ต่อไป ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การทะยอยส่งมอบเป็นครั้ง ๆ ไป หรือ การทำพินัยกรรม ซึ่งวิธีเหล่านี้ล้วนมีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเราในฐานะที่ปรึกษาการเงิน หรือนักวางแผนการเงิน ก็จะใช้เครื่องมือทางการเงินในการบริหารจัดการเงิน เพื่อบริหารจัดการภาษีมรดก เพื่อให้สินทรัพย์ที่เราสร้างขึ้นมายังคงอยู่กับเราต่อไป

    โดยสิ่งที่เป็นผลพลอยได้ระหว่างทางที่เราวางแผนการเงินคือ ผลประโยชน์ทางด้านภาษี หรือ การบริหารจัดการภาษี นั้นเอง

  • การขนส่งในลำปาง

    การขนส่งในลำปาง

    ผมเคยตั้งคำถามกับการขนส่งภายในจังหวัดลำปางว่า

    “ทำไมลำปางมีต้นทุนในการเดินทางสูงจัง? ทั้ง ๆ ที่ลำปางมีทางรถไฟพาดผ่าน และการขนส่งทางรางนั้นมีต้นทุนต่ำ”

    เช่น การเดินทางไปเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง น้อง ๆ ยังต้องเดินทางไปเรียนโดยรถโดยสารของทางมหาวิทยาลัยฯ จัดให้ ทั้งที่ด้านหลังของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ติดกับรางรถไฟ

    ถ้าหากด้านหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง เป็นสถานีรถไฟที่นักศึกษาสามารถนั่งมาเรียนได้จากสถานีรถไฟนครลำปาง มันคงจะดีไม่น้อย ที่นักศึกษาที่เป็นอนาคตของลำปาง อนาคตของประเทศไทยที่จะมีสวัสดิการที่ดี สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างตรงเวลา

    และมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าหากชาวบ้าน หรือผู้คนที่มาเที่ยวในจังหวัดลำปางสามารถเดินทางระหว่างอำเภอที่มีรางรถไฟพาดผ่านทุก ๆ 30-60 นาที จริงไหม?

    แต่หลาย ๆ คนก็จะบอกว่า ก็ลำปางกำลังจะมีไง? รถไฟทางคู่กำลังจะมา ครับ รถไฟทางคู่กำลังจะมาแต่ไหนล่ะครับ? รถไฟทางคู่ที่เราคาดหวังคือ ปี 2571-2575 โน้น แล้วลำปางรอได้หรือครับ? ลำปางรอดไม่ได้ ลำปางต้องไปต่อ นี่คือโอกาสของลำปาง

    ดังนั้นลำปางอาจจะต้องการกองทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับลำปาง หรือ Lampang Infrastructure Fund ที่ลงทุนในโครงสร้างทางราง สร้างรางรถไฟทางคู่ สร้างสถานีขึ้นมาภายในจังหวัดลำปาง และกองทุนนี้อาจรวมไปถึงการก่อสร้างลานตู้คอนเทนเนอร์แบบแห้ง เพื่อเป็นโอกาสในทางการค้าของลำปาง

    หลังจากนั้นมีการหาองค์กรเพื่อจัดหารถมาเดินรถภายในจังหวัดในระยะยาวแล้ว

    ระยะแรก อาจเป็นขบวนรถไฟดีเซลรางที่มีตู้เดียวที่มีห้องขับด้านหัว-ท้ายขบวน เพื่อไม่ให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูง เหมือนภาพด้านล่าง

    Wanman (one-man) train car

    หลังจากนั้น เราจะสามารถต่อเติมการเดินทางภายในจังหวัดลำปาง และสามารถส่งเสิรมการท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางได้ดีกว่าปัจจุบัน เพราะสิ่งที่ลำปาง และหลาย ๆ จังหวัดในประเทศไทยกำลังขาดแคลนคือ การคมนาคมที่มีมาตรฐาน ตรงเวลา เชื่อถือได้ ปลอดภัย และประหยัด หากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ จะทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยงเมืองรองมากขึ้นครับ

  • [บันทึกนักขี่] เล่นเตะกรวย กับ Slow Balance

    [บันทึกนักขี่] เล่นเตะกรวย กับ Slow Balance

    ถ้าหากเป็นการ Challenge เพื่อหวังผลฯ เช่นแข่งขันกันเล่นๆ นั่นหมายความว่าต้องการความแม่นและชัวร์มากขึ้น ในแต่ละกรวย

    หากเราเอาเท้าออกจากพื้นบอร์ดรถสกุ๊ตเตอร์หรือรถอะไรก็แล้วแต่ ยิ่งรถสกุ๊ตเตอร์ยิ่งต้องถ่างขากว้างออกเยอะ ก็เหมือนกับรถ GS ที่ต้องถ่างขาหนีหัวเครื่องบ๊อกเซอร์….. เมื่อเราต้องยกเท้าออกจากการวางที่พักเท้าหรือพื้นบอร์ดพร้อมกับการวาดเท้าออกไปเขี่ยกรวย มักจะเกิดอาการเสียบาลานซ์ไปบ้างเล็กน้อย บางคนเสียบาลานซ์ในจังหวะนี้เยอะเลยจนเซ ทำให้เกิดความไม่แม่นยำ ตามที่บอกว่าถ้าการทำเพื่อหวังผลลัพธ์ Challenge แล้วต้องการความแม่นนำ เราต้องเอาเท้าออกมารอซักระยะเวลาหนึ่งจนบาลานซ์นิ่ง เมื่อนิ่งแล้วเวลาเขียก็จะเสียบาลานซ์น้อยกว่าการทำทุกขั้นตอนพร้อมกันในเวลาเดียวกัน…….. มันเปรียบสเหมือนการแต่งตัวก่อนเข้าโค้ง / การมองโค้งไกล มองล่วงหน้า ประมาณนั้นครับ หรือเหมือนกับการขี่รถเอามือไปหยิบของ ถ้าเราปล่อยมือพร้อมกับรีบไปหยิบของเลย มันจะเซ แต่ถ้าเราปล่อยมือรอไว้แล้ว ก็จะหยิบง่าย (หลักการมันเหมือนกัน)

    อันนี้เป็นทริคอีกขั้นนึงแล้วครับ เอาไว้เล่นสนุกๆครับ 555

  • [PINIYA]-International Sales and Marketing Account Executive

    [PINIYA]-International Sales and Marketing Account Executive

    Job Title: International Sales and Marketing Account Executive

    Location: Bangkok, Thailand

    Job Type: Full-time

    About Us: Piniya is a premier home decorative brand from Thailand, renowned for our exquisite designs and high-quality products that transform living spaces. Our commitment to craftsmanship and innovation sets us apart in the market. We are currently seeking a dynamic and results-driven International Sales and Marketing Account Executive to join our team and help us expand our global reach.

    Job Description:

    As an International Sales and Marketing Account Executive at Piniya, you will play a crucial role in driving international sales growth and enhancing our global brand presence. You will be responsible for developing and executing strategic sales and marketing initiatives, building strong client relationships, and achieving sales targets in international markets.

    Key Responsibilities:

    1. International Sales Development:
      • Identify and target potential international clients, including retailers, distributors, and online platforms, through market research and networking.
      • Develop and implement effective sales strategies to achieve international sales goals.
      • Conduct sales presentations, product demonstrations, and negotiations tailored to the needs of international clients.
      • Manage the entire sales cycle from lead generation to closing deals with international clients.
    2. Client Relationship Management:
      • Build and maintain strong, long-lasting relationships with key international clients.
      • Act as the main point of contact for key accounts, ensuring client satisfaction and retention.
      • Address client inquiries and resolve any issues promptly to maintain high levels of customer satisfaction.
    3. International Marketing Initiatives:
      • Collaborate with the marketing team to develop and execute marketing campaigns that promote Piniya’s products in international markets.
      • Create compelling marketing materials and presentations to support international sales efforts.
      • Analyze market trends and competitors to identify opportunities for growth and innovation in international markets.
    4. Reporting and Analysis:
      • Track and report on international sales and marketing performance metrics.
      • Prepare regular reports on sales activities, pipeline status, and revenue forecasts.
      • Provide insights and recommendations based on data analysis to improve sales strategies and marketing efforts in international markets.
    5. Collaboration and Teamwork:
      • Work closely with cross-functional teams, including product development, customer service, and finance, to ensure seamless delivery of solutions to international clients.
      • Participate in team meetings and contribute to the overall strategic planning process.
      • Share best practices and support the professional development of team members.

    Qualifications:

    • Bachelor’s degree in Business, Marketing, International Business, or a related field.
    • Proven experience in international sales and marketing, preferably in the home decor or related industry.
    • Strong understanding of international sales principles and marketing strategies.
    • Excellent communication, negotiation, and presentation skills.
    • Ability to build and maintain relationships with international clients and internal teams.
    • Proficiency in CRM software and Microsoft Office Suite.
    • Analytical mindset with the ability to interpret data and make data-driven decisions.
    • Self-motivated, goal-oriented, and able to work independently and as part of a team.
    • Fluency in English; additional languages are a plus.
    • Willingness to travel internationally as required.

    Benefits:

    • Expected Salary: 15,000 – 45,000 THB (Not including commission yet.)
    • Opportunities for professional development and career advancement.
    • Flexible work environment and supportive team culture.
    • Others

    How to Apply:

    Interested candidates are invited to submit their resume and cover letter outlining their qualifications and experience to [email protected]. Please include “International Sales and Marketing Account Executive Application” in the subject line.

    Piniya is an equal-opportunity employer. We celebrate diversity and are committed to creating an inclusive environment for all employees.

  • [PINIYA]-ตัวแทนงานขายและการตลาดประจำพื้นที่

    [PINIYA]-ตัวแทนงานขายและการตลาดประจำพื้นที่

    ตำแหน่งงาน: ตัวแทนงานขายและการตลาดประจำพื้นที่

    สถานที่ทำงาน: ประเทศไทย

    ประเภทงาน: งานประจำ และพาร์ทไทม์

    เกี่ยวกับเรา: Piniya เป็นแบรนด์ของประดับตกแต่งบ้านชั้นนำจากจังหวัดลำปาง ประเทศไทย เรามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและดีไซน์ที่สวยงาม เพื่อเปลี่ยนแปลงพื้นที่อยู่อาศัยของลูกค้า เรากำลังมองหาตัวแทนงานขายและการตลาดที่มีความกระตือรือร้นและมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อเข้าร่วมทีมและช่วยขยายธุรกิจของเรา

    รายละเอียดงาน:

    ในฐานะตัวแทนงานขายและการตลาดที่ Piniya คุณจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของยอดขายและเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของเรา คุณจะรับผิดชอบในการพัฒนาและดำเนินการตามกลยุทธ์การขายและการตลาด สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคู่ค้า และบรรลุเป้าหมายยอดขาย

    ความรับผิดชอบหลัก:

    1. การพัฒนายอดขาย:
      • ระบุและเป้าหมายคู่ค้าศักยภาพผ่านการวิจัยตลาดและการสร้างเครือข่าย
      • พัฒนาและดำเนินการตามกลยุทธ์การขายที่มีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายการขาย
      • ทำการนำเสนอขาย สาธิตสินค้า และเจรจาต่อรองเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
      • จัดการกระบวนการขายทั้งหมดตั้งแต่การสร้างโอกาสขายจนถึงการปิดการขาย
    2. การจัดการความสัมพันธ์กับคู่ค้า:
      • สร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและยาวนานกับคู่ค้าหลัก
      • เป็นจุดติดต่อหลักสำหรับคู่ค้า สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้ามีความพึงพอใจและรักษาคู่ค้าไว้
      • ตอบข้อซักถามของคู่ค้าและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความพึงพอใจของคู่ค้า
    3. การดำเนินการทางการตลาด:
      • ร่วมมือกับทีมการตลาดในการพัฒนาและดำเนินการตามแคมเปญการตลาดเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ของ Piniya
      • สร้างและจัดทำสื่อการตลาดและการนำเสนอเพื่อสนับสนุนการขาย
      • วิเคราะห์แนวโน้มตลาดและกิจกรรมของคู่แข่งเพื่อหาช่องทางการเติบโตและนวัตกรรม
    4. การรายงานและวิเคราะห์:
      • ติดตามและรายงานผลการดำเนินการขายและการตลาด
      • จัดทำรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมการขาย สถานะของโอกาสการขาย และการคาดการณ์รายได้
      • ให้ข้อเสนอแนะและคำแนะนำตามการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการตลาด
    5. การทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม:
      • ทำงานร่วมกับทีมต่างๆ เช่น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมบริการคู่ค้า และทีมการเงิน เพื่อให้การส่งมอบผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น
      • เข้าร่วมการประชุมทีมและมีส่วนร่วมในการวางแผนกลยุทธ์โดยรวม
      • แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาชีพของสมาชิกในทีม

    คุณสมบัติ:

    • ปวส. สาขาบริหารธุรกิจ การตลาด หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
    • มีประสบการณ์ในงานขายและการตลาด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมของประดับตกแต่งบ้าน, เฟอร์นิเจอร์ หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ (ยินดีรับผู้มุ่งหวังจบการศึกษาใหม่)
    • มีความเข้าใจในหลักการขายและกลยุทธ์การตลาดเป็นอย่างดี
    • มีทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรอง และการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม
    • สามารถสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและทีมงานภายในได้ดี
    • มีความสามารถในการใช้ซอฟต์แวร์ CRM และชุดโปรแกรม Microsoft Office
    • มีความคิดวิเคราะห์และสามารถตีความข้อมูลและตัดสินใจที่ใช้ข้อมูลเป็นฐาน
    • มีแรงจูงใจในตัวเอง มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย และสามารถทำงานได้อย่างอิสระและเป็นทีม
    • สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ โดยอาจจะต้องเดินทางต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาหลายวัน และอาจต้องทำงานในวันหยุด แต่จะได้รับการแจ้งล่วงหน้า และจะมีการให้หยุดชดเชยในภายหลัง
    • มีอิสระในการเลือกเวลางานเองในระดับหนึ่ง และสามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ในบางวัน

    สวัสดิการ:

    • เงินเดือน 12,000 – 35,000 บาท (ยังไม่รวมค่านายหน้า)
    • โอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพและความก้าวหน้าในอาชีพ
    • สภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นและวัฒนธรรมทีมที่สนับสนุน
    • อื่น ๆ

    วิธีการสมัคร:

    ผู้สนใจสามารถส่งประวัติส่วนตัวและจดหมายแนะนำตัวที่แสดงถึงคุณสมบัติและประสบการณ์มาที่ [email protected] กรุณาระบุหัวข้ออีเมลว่า “สมัครงาน – ตัวแทนงานขายและการตลาด”

    พี่แดน เป็นนายจ้างที่ให้โอกาสเท่าเทียมกัน เราเฉลิมฉลองความหลากหลายและมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรสำหรับพนักงานทุกคนครับ

  • [บันทึกนักขี่] ขี่รถใหญ่ ทำไมเราถึงล้มง่ายจัง?

    [บันทึกนักขี่] ขี่รถใหญ่ ทำไมเราถึงล้มง่ายจัง?

    อันนี้ผมไปเจอบทความดี ๆ จากโพสต์ Facebook ของอาจารย์ จิตเกษม จัลวรรณา เลยเอามาแชร์กันก่อนที่บทความจะโดนทับถมไปตามกาลเวลาครับ

    ขี่ ร ถ ใ ห ญ่ _ ท ำ ไ ม เ ร า ถึ ง ล้ ม ง่ า ย จั ง

    * เพราะรถมันใหญ่ ❌

    * เพราะรถมันหนัก ❌

    จริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ….!

    * เพราะรถมันสูง ✔️

    ✔️ ใช่ครับ ✔️

    สาเหตุที่เราล้มกันบ่อย ๆ ง่าย ๆ โดยเฉพาะเวลาเลี้ยวหรือกลับรถ หรือเคลื่อนรถไปช้า ๆ ไม่ได้เกิดจากรถใหญ่หรือหนักแต่อย่างใด แต่มันคือความสูงของรถ และเบาะนั่งต่างหาก (หรือรถสูงปรกติ แต่คนตัวเล็กนั่นเอง) เนื่องจากความสูงของเบาะ ทำให้ฐานล่างของเรา(ขา) ค้ำยันพื้นได้ไม่มั่นคง หรือถ่างขาได้ไม่มากพอทำให้ไม่มีแรงในการค่ำยันรถนั่นเอง ฟังแล้วหลายคนอาจจะค้านว่ารถหนักน่าจะมีส่วนทำให้ล้มได้ง่ายมากกว่า(ไม่ใช่เลยครับ) งั้นเรามาฟังตรงนี้กัน

    เรามักจะเห็นรถอเมริกันคันใหญ่ ๆ หนัก ๆ อย่างเช่น Harley Davidson พวกตระกูล Road King / Electra Glide / Road Gide / Heritage / Fadboy หรือ Indian อะไรก็แล้วแต่ ที่มีน้ำหนัก 400 kg. ++ เขาล้มง่าย ๆ บ่อย ๆ กันแบบรถ BMW GS / T7 / Africa twin / Multi Enduro บ้างมั๊ย? ก็ไม่นะครับ ทั้ง ๆ ที่ H-D หนักกว่าเกือบ 2 เท่าในบางคันด้วยซ้ำ(ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ยังขี่ H-D ไม่ล้มได้ง่าย ๆ เหมือนผู้ชายขี่รถเหล่านั้นเลย)

    Honda Gold Wing หรือพวกรถ Grand Touring ต่างๆก็ตาม เข่น BMW K1600 GT / R1250 RT / Yamaha XJR1300 / Kawasaki GTR1400 พวกรถเหล่านี้หนักเฉียด ๆตัวเลข 300kg. ทั้งนั้น แม้แต่คนตัวเล็ก ๆ ขี่ ก็ยังล้มยาก เลย จริงไหม?

    กลับกัน มาดูรถเบา ๆ ที่ล้มกันง่าย ๆ บ้าง

    รถสูตรวิบาก เช่น KTM Husqvarna Honda Yamaha Kawasaki ฯลฯ รถชนิดนี้เบามาก ยิ่งแพงยิ่งเบา น้ำหนักประมาณ 100-107 kg. แต่กลับล้มง่ายมาก เพราะเบาะสูงปรี๊ดนั่นเอง ทำให้ฐานค้ำเราแคบ (รถโมโตครอสก็เช่นกัน สูงกว่ามาก แต่เขาไม่ค่อยล้มกันเพราะเน้นขี่แข่งด้วยการใช้ความเร็วตลอดแทรค รถจึงมีการพยุงตัวของมันอยู่ในตัวตลอดเวลา) บวกกับนักแข่งโมโตครอสจะมีทักษะที่ต่างจากคนทั่วไปมาก และมีความพร้อมทุกด้าน เรื่องเหล่านี้จึงไม่ใข่ปัญหาหลักของเขาเลย

    รถวิบากทั่วไป หรือที่เรียกว่ารถวิบาก Production เช่น CRF 250 300 450 / KLX 250 (รุ่นที่เบาะสูง ๆ ทั้งหลาย) น้ำหนักก็เพียงแค่ 130-140 kg. แต่ขี่กลับยูเทินบนทางดำเรียบๆให้เสียจังหวะยังล้มง่าย ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่รถเบากว่า H-D ถึงเกือบ 3 เท่า

    คราวนี้มาดูที่จักรยานปั่นหรือจักรยานประเภทกีฬากันบ้าง

    จักรยาน น้ำหนักเพียง 20-30 kg. แน่นอน รถเบา ๆ อย่างนี้ล้มยากแน่ ๆ “ผิดครับ” ถ้าเมื่อมาดูฝั่งจักรยานเสือหมอบ (จักรยานความเร็ว) น้ำหนักมีเพียงแค่ 10 กว่ากิโลเท่านั้นเอง เรียกว่ายิ่งเบายิ่งแพง ไล่เบากันกิโลละเป็นแสน รถประเภทนี้เอานิ้วมือยกนิ้วเดียวก็ยกขึ้นแล้วด้วยซ้ำ (คุยกันอย่างนั้นเลย) รถประเภทนี้ “เบาะสูงปรี๊ดดด” แต่กลับล้มง่าย “จริงมั๊ย?” เชื่อว่านักปั่นจักรยานประเภทนี้ เจอเหตุการณ์นี้กันมาแล้วทุกคน ถึงขั้นต้องฝึกปลดคลีทล๊อคเพื่อแลนดิ้งลงพื้นกันเลย (ใครๆก็ไม่อยากล้มเพราะรถมันแพง) นั่นเพราะว่า สูงจนเขย่ง ฐานค้ำเราจึงแคบมากนั่นเอง (คือเบาะสูงจนไม่สามารถถ่างขาออกเพื่อยันรถที่มีน้ำหนักเพียง 10 กว่ากิโลกรัม ได้ด้วยซ้ำ)

    ทั้งหมดนี้เราพูดถึงคือ รถทุกชนิดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำถึงต่ำมาก ๆ (จะด้วยเพราะอะไรก็ตาม) เราต้องการการค้ำยันที่มั่นคงหากเกิดเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องเอาเท้าแลนดิ้งลงพื้นในเวลาฉุกเฉิน แต่ในเมื่อรถคันนั้นมีเบาะที่สูงเกินการค้ำยัน นั่นหมายความว่าท่านต้องนำเอา Skill Balance มาแลก “ยิ่งเบาะสูงมาก ยิ่งต้องแลกมาก” เรื่องแบบนี้ ใครไม่ตัวเล็กหรือขาสั้น จะไม่มีทางเข้าใจฟิลลิ่งนั้นเลย ไม่เชื่อ…คุณลองหาอะไรหนุนเบาะรองก้นให้สูงจนเท้าแตะพื้นไม่ถึง คุณจะขี่รถเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทันที “เพราะขาคุณจะสั่นนั่นเอง 555 ฝรั่งฝั่งยุโรปที่ตัวสูงๆ 185 cm.+ (สำหรับเขาไม่มีคำว่ารถ Big bike / แต่ถ้าเป็นรถฮอนด้าเวฟบ้านเรา เขาเรียก Minibike / ส่วน Minibike สำหรับเราคนเอเชีย ก็คือรถป๊อป 50 cc โน้นเลย 555) ทุกอย่างมันมีสัดส่วนของมัน อะไรที่เกินตัว เมื่อมีต้นทุนทางสรีระที่ต่างกัน ก็ต้องเอาความสามาถเข้ามาหักล้างกัน! นั่นเป็นเรื่องจริง!

    ฝากบทสนทนานี้ไว้

    ก า ร ห า ส ม ดุ ล ย์ ห รื อ B a l a n c e จึ ง ส ำ คั ญ

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถหรือเรื่องอะไรก็ตาม

  • หวยเกษียณ vs ประกันชีวิต อะไรคุ้มค่าต่อชีวิตหลังเกษียณ?

    หวยเกษียณ vs ประกันชีวิต อะไรคุ้มค่าต่อชีวิตหลังเกษียณ?

    ตอนนี้แดนอายุ 34 ปี ถ้าแดนซื้อหวยเกษียณเต็ม 3,000 บาท ทุกเดือน จนอายุ 60 ปี ถึงจะถอนได้ ถึงตอนนั้นแดนจะมีเงินที่ถอนได้ 936,000 บาท

    Screenshot

    สมมุติว่า เงินเฟ้อปีละ 2% เงินจำนวน 936,000 บาท และแดนคิดว่ามีอายุถึง 90 ปี แดนจะมีเงินเหลือใช้ปีละ 22,466.70 บาท/ปี หรือ 1,872.23 บาท/เดือน

    Screenshot

    คำถามคือ จะกินอยู่ไหวเหรอครับ?

    แต่ถ้าวันนี้แดนเอา 36,000 บาทจะซื้อหวยเกษียณ มาซื้อประกัน AIA Protection 65 ได้ทุนประกัน 360,000 บาท

    เมื่ออายุ 65 แดนได้เงินคืน 43,200 บาท
    อายุ 66-69 ได้เงินคืนปีละ 50,400 บาท
    อายุ 70-74 ได้เงินคืนปีละ 57,600 บาท
    อายุ 75-79 ได้เงินคืนปีละ 64,800 บาท
    อายุ 80-84 ได้เงินคืนปีละ 72,000 บาท
    อายุ 85-89 ได้เงินคืนปีละ 79,200 บาท
    อายุ 90-94 ได้เงินคืนปีละ 86,400 บาท
    อายุ 95-97 ได้เงินคืนปีละ 93,600 บาท
    แล้วอายุ 98 ก็ได้ทุนประกันคืน 360,000 บาท เป็นเงินก้อน

    เห็นแบบนี้แล้ว เพื่อน ๆ ยังอยากจะซื้อหวยเกษียณอยู่ไหม? ซื้อมีโอกาสถูก ไม่ซื้อไม่มีโอกาสถูก แต่ซื้อหวยเพื่อน ๆ รับความเสี่ยงที่จะไม่ถูกได้ไหม? ในเมื่อสิ่งที่แดนกำลังเสนอแผนมีโอกาสได้ 100% ถ้าเพื่อน ๆ เห็นด้วยติดต่อแดนครับ ให้แดนได้มีโอกาสช่วยวางแผนการเงินของเพื่อน ๆ แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจ กลัวว่าแดนจะดูแลไม่ดี เพื่อน ๆ จะเอาแผนนี้ไปทำกับตัวแทนที่เพื่อน ๆ มั่นใจแดนก็ไม่ว่าอะไร? เพราะแดนถือว่า อย่างน้อย ๆ แดนได้ช่วยเหลือเพื่อน ๆ ทุกคนที่เห็นโพสต์นี้แล้วที่จะหลุดพ้นความยากจนและก้าวสู่ความมีอิสระภาพทางการเงินและความมั่งคั่งไปพร้อม ๆ กันครับ